หลวงปู่หลุย
จันทสาโร
วัดถ้ำผาบิ้ง จ.เลย
ชาติกำเนิดและชีวิตปฐมวัย
หลวงปู่หลุย จนฺทสาโร เป็นบุตรของ คุณพ่อคำฝอย วรบุตร ลูกชายเจ้าเมืองแก่นท้าว
แขวงไชยบุรี ประเทศลาว และ เจ้าแม่นางกวย (สุวรรณภา) วรบุตร
ธิดาของผู้มีอันจะกินเขตเมืองเลย ท่านถือกำเนิดเมื่อ วันอังคารที่
11 กุมภาพันธ์ 2444 เวลารุ่งอรุณจวนสว่าง ได้ชื่อว่า วอ มีพี่สางต่างบิดา
1 คน และ น้องชายร่วมบิดามารดาอีก 1 คน ขณะที่อยู่ที่เชียงคาน
มีการติดต่อกับฝรั่งฝั่งลาว ท่าน ศึกษาศาสนาคริสต์อยู่ 5 ปี
จนคุณพระเชียงคาน ลุงของท่าน เรียกท่านว่า เซนต์หลุย หรือ
หลุย ท่านจึงถูกเรียกชื่อว่า หลุย ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา
ชีวิตสมณะ การแสวงหาธรรม และปฏิปทา
อุปสมบท เป็นพระมหานิกาย ณ อำเภอแซงบาดาล จังหวัดร้อยเอ็ด
เมื่อปีพุทธศักราช 2466 โดยมีอัยการภาคเป็นเจ้าภาพบวชให้
ท่านได้มีโอกาสฟังธรรมเทศนาจาก ท่านพระอาจารย์บุญ ปญฺญาวโร
รู้สึกเลื่อมใสมาก จึงขอถวายตัวเป็นศิษย์ ได้ขอญัตติจตุตถกรรมใหม่
เป็นพระธรรมยุตที่วัดศรีสะอาด อำเภอเมือง จังหวัดเลย
ท่านได้พบกับ
พระอาจารย์เสาร์ กนฺตสีโล และอยู่ปฏิบัติรับฟังโอวาทจาก พระอาจารย์เสาร์
โดยมี พระอาจารย์บุญ เป็นพระพี่เลี้ยง ที่วัดพระพุทธบาทบัวบก
จากนั้น ก็ได้ไปกราบนมัสการ ท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต
มหาเถระที่ท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย ได้อยู่อบรมรับฟังโอวาทและฝึกปฏิบัติกับพระอาจารย์มั่น
จวบจนเข้าพรรษา จึงกลับมาจำพรรษาต่อกับ พระอาจารย์เสาร์ ที่วัดพระพุทธบาทบัวบก
ในพรรษานี้
ท่านได้ภาวนาจนจิตรวมแล้วเกิดอาการสะดุ้ง พระอาจารย์บุญ จึงให้ญุตติจตุถกรรมใหม่ที่
วัดโพธิสมพรณ์ อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี เมื่อวันที่ 14
พฤษภาคม 2468 โดยมี ท่านเจ้าคุณธรรมเจดีย์ (จูม พนฺธุโล) เมื่อครั้งเป็นพระครูสังฆวุฒิกรป็นพระอุปัจฌาย์
และ ท่านพระอาจารย์บุญ ปญญาวโร เป็นพระกรรมวาจาจารย์
ท่านจึงได้บวชถึง 3 ครั้ง คือ ปี 2466, 2467 และ 2468
ท่านเปี่ยมล้นด้วยเมตตาธิคุณ
กรุณาธิคุณ โดยไม่อ้างกาลเวลา แม้อาพาธอย่างหนักก็ยังปรารภปัจฉิมเทศนาเป็นครั้งสุดท้าย
จวบจนเวลา 23.30 น. ท่านได้กล่าวว่าท่านประคองธาตุขันธ์ต่อไปไม่ไหว
คงจะปล่อยวางแล้ว ขอเอาจิตอย่างเดียว และขอขอบใจที่พระเณรได้ช่วยกันอุปัฏฐากท่าน
หากได้ล่วงเกินซึ่งกันและกัน ก็ขอให้อโหสิกรรมให้แก่กันและกันด้วย
กระทั่งถึงเวลา 00.43น. ของ คืนวันที่ 24 ล่วงเข้าสู่ วันจันทร์ที่
25 ธันวาคม 2532 หลวงปู่ได้กล่าวเป็นคำสุดท้ายว่า "เอาขันธ์ไว้ไม่ไหวแล้ว"
หลวงปู่ได้จากไปพร้อมอาการสงบด้วยสติ รวมสิริอายุได้ 88 ปี
65-67 พรรษา
ธรรมโอวาท
1.หลักการม้างกาย ของท่าน คือ การพิจารณาปล่อยวางธาตุขันธ์
ส่วนการภาวนาหรือทำจิตทำใจ ให้ดูอาการของจิต ก่อนตาย อย่าไปดูอาการของเวทนา
ให้ดูจิตอย่างเดียว เวลาธาตุจะตีลังกาเปลี่ยนภพ จิตจะออกจากร่าง
ให้พิจารณาตามจิต จะเห็นว่า จิตจะออกจากร่างอย่างไร ไปอย่างไร
จิตจะเข้าๆ ออกๆ อย่างไร จะมืดๆ สว่างๆ อย่างไร จะมีอาการเหนื่อยหอบมาก
ให้กำหนดตามจิต จะเห็นอาการจิตชัด แต่หากตามไม่ทัน ก็ให้ปล่อยไปให้ได้ปัจจุบันขณะ
ภาพพระธาตุ


แหล่งข้อมูล-ภาพประกอบ:
วัดสันติธรรม. 2548. 50 ปี สันติธรรมานุสรณ์.
กลางเวียงการพิมพ์, เชียงใหม่ |